ชื่อเรื่อง : การพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยแผนภูมิกราฟิก
ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองสรวงวิทยา อำเภอเมือง
จังหวัดร้อยเอ็ด
ผู้ศึกษา : สุรีพร กลางบุรัมย์
บทคัดย่อ
แผนภูมิกราฟิกเป็นเทคนิคที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนภาษาที่สองโดยเฉพาะทักษะการอ่านและการเขียน เพื่อช่วยให้นักเรียนเห็นความสัมพันธ์ของข้อมูลในรูปมิติสัมพันธ์ได้ชัดเจนการศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อใช้กระบวนการศึกษาเชิงปฏิบัติในชั้นเรียนพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้แผนภูมิกราฟิกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองสรวงวิทยา อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 จำนวน 43 คน ระยะเวลาที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2550 มีทั้งหมด 5 วงจร วงจรละ 2 ชั่วโมง เทคนิคที่ใช้ในการเก็บข้อมูลได้แก่ เทคนิคการสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง โดยการบันทึกวีดีโอ การสังเกตของผู้ร่วมศึกษา การเขียนอนุทินของนักเรียน การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้างโดยการบันทึกเทป ผู้ศึกษาได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้เทคนิคสามเส้า แล้วเขียนรายงานการศึกษาตามรูปแบบของการศึกษาเชิงปฏิบัติการ การศึกษาปรากฎผลดังนี้
วงจรที่ 1 ผู้ศึกษาใช้แผนภูมิกราฟิก 2 ชนิด คือ แผนภูมิกราฟิกเรียงลำดับเหตุการณ์ พบว่า นักเรียนอ่านจับใจความ สรุปความจากเรื่องที่อ่านได้ ง่ายขึ้น อ่านเร็วขึ้น และผลจากการใช้แผนภูมกราฟิกภาพความคิดพบว่า นักเรียนอ่านอย่างมีจุดมุ่งหมายและสามารถสรุปเนื้อหาจากบทอ่านได้ แต่ปัญหาที่พบคือ ยังมีนักเรียนางคนไม่เข้าใจลักษณะและวิธีการใช้กราฟิกทั้งสองชนิดนี้
วงจรที่ 2 ผู้ศึกษาได้แก้ปัญหารในขั้นของการใช้แผนภูมิกราฟิกที่ยังมีนักเรียนบางคนไม่เข้าลักษณะวิธีการใช้แผนภูมิกราฟิกนั้น โดยการยกตัวอย่างง่ายๆเพื่อให้นักเรียนเข้าใจจุดมุ่งหมายลักษณะและวิธีการใช้แผนภูมิกราฟิกแต่ละชนิด ทำให้นักเรียนเข้าใจลักษณะและวิธีการใช้แผนภูมิกราฟิกนั้นมากขึ้น นอกจากนั้นในวงจรนี้ ผู้ศึกษาได้ใช้ แผนภูมิกราฟิก 2 ชนิดคือ แผนภูมิกราฟิกขั้นบันได โดยแผนภูมิชนิดนี้ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียงลำดับขั้นตอนของข้อความจากบทอ่านได้ง่ายขึ้น และแผนภูมิกราฟิกจำแนกประเภท ผลจากการใช้พบว่านักเรียนสามารถจำแนกประเภทของข้อมูลจากบทอ่านได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น แต่ปัญหาทีพบคือนักเรียนบางคนยังมีปัญหาเดิมคือกังวลเรื่องความหมายองคำศัพท์
วงจรที่ 3 ผู้ศึกษาได้แก้ปัญหาเน้นการจัดกิจกรรมการใช้แผนภูมิกราฟิก โดยการชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจว่า การอ่านเพื่อความเข้ใจนั้น ไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายของคำศัพท์ทุกคำก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแปลคำศัพท์ในระดับหนึ่ง แผนภูมิกราฟิกที่ผู้ศึกษาใช้ในวงจรนี้คือ แผนภูมิกราฟิกภาพความคิด พบว่าช่วยให้นักเรียนเห็นความสัมพันธ์ของข้อมูลจากเรื่องที่อ่านได้ชัดเจน และกราฟิกแมงมุม ซึ่งพบว่า ช่วยให้นักเรียนนักเรียนเข้าใจละเอียดต่างๆ ของข้อมูลในบทอ่านได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบคือ ยังมีนักเรียนบางคนไม่เข้าใจคำศัพท์และวลีในใบงานกราฟิก
วงจรที่ 4 ผู้ศึกษาได้แก้ไขปัญหาที่นักเรียนไม่เข้าใจคำหรือวลีในใบงานโดยการเปลี่ยนคำศัพท์และวลีให้สื่อความหมายมากขึ้น ผลจากการแก้ปัญหาดังกล่าวพบว่า นักเรียนเข้าใจมากขึ้นจะเห็นได้จาก คะแนนอยู่ในระดับดี ในวงจรนี้ผู้ศึกษาได้ใช้แผนภูมิกราฟิก 2 ชนิดคือ แผนภูมิกราฟิกเชิงบรรยาย พบว่าช่วยให้นักเรียนเขียนสรุปความคือ เขียนเนื้อหาที่ได้จากบทอ่านให้สั้นลง จับใจความเฉพาะที่สำคัญๆได้ ส่วนผลของการใช้แผนภูมิความเหมือนและความต่างพบว่า นักเรียนสามารถแยกความหมายและความต่างของเนื้อหาที่ผู้ศึกษานำมาให้นักเรียนอ่านได้ จะเห็นได้เห็นได้จากคะแนนใบงานอยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตามปัญหาที่ต้องแก้ไขในวงจรต่อไปคือ การแก้ไขบทอ่านให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียน
วงจรที่ 5 ผู้ศึกษาได้แก้ปัญหาที่บทอ่านยากไม่เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียนโดยปรึกษากับผู้ร่วมศึกษาเพื่อคำแนะนำและพิจารณาเนื้อหาให้เหมาะสมกับบทอ่าน ผลจากการแก้ปัญหาดังกล่าวนักเรียนให้ความเห็นไว้ว่า บทอ่านง่ายขึ้นและสอดคล้องกับลักษณะของแผนภูมิ ในวงจรนี้ผู้ศึกษาใช้แผนภูมิกราฟิก 2 ชนิดคือ แผนภูมิแสดงเหตุและผล และพบว่าแผนภูมิชนิดนี้ ช่วยให้นักเรียนเขียนแยกส่วนที่เป็นเหตุและส่วนที่เป็นผลจากเรื่องที่อ่านได้ชัดเจนมากขึ้น และแผนภูมิกราฟิกเปรียบเทียบแลตรงกันข้าม พบว่า แผนภูมิชนิดนี้ช่วยให้นักเรียนพิจารณาความคล้ายคลึงและสิ่งที่ตรงกันข้ามในเรื่องที่อ่านได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบคือ ใบงานกราฟิกที่ให้นักเรียนทำนั้นมีน้อยเกินไป
------------------------------------------------------------
TITLE : Developing Reading and Writing English Skills by Using Graphic
Organizers of Mathayomsuksa III Student Muangsuanwittaya School Roi-et
AUTHOR : Mrs. Sureeporn Klangburum
ABSTRACT
Graphic Organizers are appropriate techniques for bilingual learning, especially in reading skills and writing skills to help students understand relations of information within visual dimensions. The purpose of this study was to use the procces of action research to develop reading skills and writing skills by using graphic organizers in teaching Mathayomsuksa III students of Muansuangwittaya School, Amphoe Muangsuang, Roi-et Education Area 2 . The study was conducted in the second semester of the academic year 2007. Data were collected from January to February 2008 with a total of 5 cycles, each of which lasted 2 hours.
The techniques for collecting data were non- formal observation and video recording, observation of the reseach participant, student's journal and unstructured interview and tape recording. The researcher analyzed the data by using the triangular techniques and reporting findings of the reseach based on the action research form. The results were as follow :
The first cycle : The researcher used two types of graphic organizers : The Narrative Sequential Organization Map helped the students read rapidly, summarize their reading quickly: The Mind Map helped the students read with a purpose and summarize the content of the text. However, it was found that some students didn't understand the nature and the application of the two types of graphic organizers.
The second cycle : The researcher solved the problem at the stage of using graphic organizer, some students didn't understand the nature and the strategies of using graphic organizers by giving examples to students to help them understand the main purpose of each graphic organizer and how to use them. In the stage of using graphic organizers. The researcher used two types of them : The Ranking Ladder organizer could help the students arrange the sequence in the text and The Classification Map organizer could help the students sort the data quickly, it was found that some students were still worried about translating word meanngs.
The third cycle : The reseacher solved the problem for the problem regarding the use of graphic organizers that some students were worried about translating word meanings by explaining to students that in using graphic organizers they did not need to translate all the text. In using the graphic organizers, the researcher used two types of them : The Mind Map could help the students understand the details of data. However, it was found that some students didn't understand the words and phrases in the tasks.
The fourth cycle : The reseacher solved the problem that some students didn't understand the words and phrases in the tasks by changing the words and phrases to make them more meaningful. It was found that the students could do the graphic task with higher scoe. Beside, results data analysis in this cycle revealed that researcher used two types of graphic organizers : The Descriptive Map organizer helped students understand distinguish the content and The Venn Diagram organizer could help students identify similar and contrast ideas in the text. However, it was found that the researcher should adjust the text to suit the student's competence.
The fifth cycle : The reseacher solved the problem that the text was difficult and inappropriate by discussing with the research participant to gain advice on adjusting the text to suit the student. This could help students feel that the text was not too difficult and it was suitable for graphic organizer. Besides, in the stage of using graphic organizers the researcher used two types of graphic organizers : The Cause and Effect Diagram help students write that parts of cause and effect clearly. It was also found that the Compare and Contrast graphic organizer helped students see and understand similar and contrast ideas clearly. However, it was observed that there were not enough tasks for students to practice using the graphic organizers.
